“ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์” จะมีความคล้ายกับธุรกิจก่อสร้าง แต่อาจจะเริ่มต้นจากการ ซื้อที่ดิน มาทำโครงการ แล้วเริ่มดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยมากจะมีการ ซื้อวัสดุก่อสร้างเข้ามา สต๊อกมีการเบิกจ่ายวัสดุก่อสร้างเหล่านั้นเข้าหน้างานตามขั้นตอนกระบวนการทำงานจริง แล้วไปเรียกดูต้นทุนของแต่ละโปรเจค หรือแต่ละงาน เพื่อดูผลประกอบการของแต่ละงาน

1. กำหนดผังบัญชีที่คิดว่าจะใช้

2. กำหนดกลุ่มบัญชีสินค้า

3. สร้างเมนูที่จำเป็นต้องใช้งานเพิ่มเติม เช่น เมนูจ่ายเฟอร์นิเจอร์เข้าหน้างาน, เมนูจ่ายวัสดุก่อสร้างเข้าหน้างาน, ทำรับบ้านพร้อมขาย, รับเงินจอง, รับเงินมัดจำ โดยผูกบัญชีเข้ากับเลขที่บัญชีที่ต้องการให้บันทึกลงสมุดรายวัน (เมนูเริ่มระบบ / กำหนดเลขที่เอกสาร)

4. กำหนดบ้านแต่ละหลัง และพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อรับรู้รายได้และค่าใช้จ่ายแต่ละส่วน (เมนูเริ่มระบบ / กำหนดแผนก)

5. กำหนดรายละเอียดสินค้า เช่น บ้านแต่ละหลัง, วัตถุดิบ, วัสดุก่อสร้าง, และรายการของแถม (เมนูสินค้า/รายละเอียดสินค้า)

6. กำหนดรายละเอียดสินค้าบริการ เช่น รับเงินจอง, รับเงินดาวน์ หรือเงินทำสัญญา โดยผู้บัญชีรายได้เข้ากับหมวดหนี้สิน (เมนูสินค้า/รายละเอียดสินค้าบริการ)

7. กำหนดรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้องใช้ โดยผูกบัญชีฝั่งค่าใช้จ่ายเข้ากับบัญชีที่ต้องการให้ลงบันทึกในสมุดรายวันฝั่ง Dr. (เมนูซื้อ / รายละเอียดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ)

1. บันทึกซื้อที่ดิน (เมนู 1/2 หรือ 1/4)

โปรแกรมจะบันทึกรายการ ลงในสมุดรายวัน รับรู้เป็นที่ดินรอการพัฒนา

2. บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนาที่ดิน เช่น ค่าถมที่ดิน ค่าแบ่งแยก ค่าปรับหน้าดิน ฯ โดยบันทึกเข้าบัญชีต้นทุน

โปรแกรมจะบันทึกรายการ ลงในสมุดรายวันเข้าหมวดต้นทุนที่กำหนดไว้

3. แบ่งแยกที่ดินแปลงใหญ่ ให้เป็นแปลงย่อย (เมนูจ่ายวัตถุดิบเข้าหน้างาน) หรือหากไม่ทำที่เมนูนี้ จะไปบันทึกจ่ายตรงๆ  ที่สมุดรายวันเลยก็ได้

โปรแกรมจะบันทึกรายการลงในสมุดรายวันให้ โดยบันทึกเป็น “งานระหว่างก่อสร้าง” ตามแปลงบ้านที่กำหนดเอาไว้

4. บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าระบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้, ค่าแรงผู้รับเหมา, หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโครงการ

** การบันทึกแบบนี้ ต้นทุนค่าใช้จ่ายจะบันทึกให้ทันที แต่ถ้าต้องการซื้อเข้ามาเก็บสต๊อกเอาไว้ก่อน แล้วค่อยเบิกจ่าย ก็ทำได้เช่นเดียวกันค่ะ โดยการเปลี่ยนหมวดของสินค้าจากหมวด 5 เป็นหมวด 1

5. เมื่อโครงการดำเนินการไปแล้วระยะหนึ่ง แล้วต้องการเปิดขาย ก็สามารถทำได้ เช่น กรณีต้องการออกใบเสร็จรับเงินจอง หรือ เงินทำสัญญา

6. หากมีการเรียกเก็บเงินดาวน์ เป็นงวด ๆ ก็ให้ทำการตั้งหนี้เงินดาวน์เต็มจำนวน (เมนูขาย/ขายเงินเชื่อ) และทำการบันทึกรับเงินดาวน์เป็นงวด ๆ (เมนูการเงิน /../รับชำระหนี้)